ผู้หญิงนอนกรนจริงหรือไม่

ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะนอนกรนเช่นเดียวกับผู้ชาย การนอนกรนเป็นปัญหาทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศและทุกวัย มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้หญิงนอนกรน รวมถึงการมีน้ำหนักเกิน ทางเดินหายใจแคบ หรือการนอนหงาย ผู้หญิงนอนกรนในบางช่วงเวลาของชีวิต เช่น ระหว่างตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่อาจส่งผลต่อทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอาจได้รับผลกระทบจากการนอนกรน และสิ่งสำคัญคือต้องเข้ารับการรักษาเพื่อแก้นอนกรนหากการนอนกรนรบกวนการนอนของคุณหรือก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ

อาการนอนกรน เกิดจากอะไร

การนอนกรนเป็นภาวะทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อการไหลของอากาศทางปากและจมูกถูกปิดกั้นบางส่วนระหว่างการนอนหลับ ทำให้เนื้อเยื่อในลำคอสั่นสะเทือนและส่งเสียง เสียงกรนอาจแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงและระดับเสียง ตั้งแต่เบาๆ และเป็นครั้งคราว ไปจนถึงเสียงดังและบ่อยครั้ง และอาจรบกวนทั้งผู้ที่นอนกรนและใครก็ตามที่นอนหลับอยู่ใกล้ๆ

การนอนกรนมักเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การคัดจมูก การนอนหงาย และการใช้ยาบางชนิด ในบางกรณี อาจเป็นอาการของภาวะทางการแพทย์ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นโรคการนอนหลับที่ร้ายแรงที่ทำให้หยุดหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีกในระหว่างการนอนหลับ

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการนอนกรนจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของสภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงกว่า และยังรบกวนการนอนหลับของคุณซึ่งนำไปสู่ความเหนื่อยล้าในตอนกลางวันและปัญหาอื่นๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหากการนอนกรนเป็นสาเหตุของปัญหาที่สำคัญ

อ่านเพิ่มเติม

สาเหตุที่ผู้หญิงนอนกรน

ผู้หญิงนอนกรนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นเดียวกับผู้ชาย รวมถึงความอ้วน อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ภูมิแพ้ และพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรนได้ง่ายกว่า ได้แก่

1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยหมดประจำเดือนอาจทำให้ผู้หญิงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและสูญเสียกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจนำไปสู่การนอนกรนได้
2. การตั้งครรภ์ : หญิงที่ตั้งครรภ์อาจมีอาการกรนเนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
3. สรีระร่างกาย : ผู้หญิงอาจมีทางเดินหายใจที่เล็กกว่าและช่องคอที่แคบกว่าผู้ชาย ซึ่งทำให้มีแนวโน้มที่จะกรนได้ง่ายกว่า
4. ยา : ยาบางชนิด เช่น ยาระงับประสาทหรือยาคลายกล้ามเนื้อ สามารถคลายกล้ามเนื้อในลำคอและมีส่วนทำให้กรนได้
5. ความผิดปกติของการนอน : ผู้หญิงที่มีความผิดปกติของการนอน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจมีอาการกรนได้
6. ท่านอน : การนอนหงายอาจทำให้ลิ้นและเพดานอ่อนยุบไปทางด้านหลังของลำคอและอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการกรนได้

หากผู้หญิงนอนกรน สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ในบางกรณี การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การลดน้ำหนัก การงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน หรือการเลิกสูบบุหรี่อาจช่วยลดการนอนกรนได้ การรักษาอื่นๆ อาจรวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่อง CPAP หรืออุปกรณ์ในช่องปาก หรือในบางกรณีอาจจำเป็นต้องผ่าตัด

แฟนนอนกรนสัญญาณอันตรายสู่รักร้าว

อาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดเมื่อการนอนกรนของคนรักทำให้คุณนอนไม่หลับในตอนกลางคืนและส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณ อย่างไรก็ตาม การเลิกกับใครสักคนเพียงเพราะการนอนกรนของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นวิธีที่รุนแรง เป็นไปได้ว่าอาจมีปัญหาอื่นๆ ซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์ที่นำไปสู่การเลิกรา และการที่แฟนนอนกรนเป็นเพียงฟางเส้นสุดท้าย อีกอย่างหากการนอนกรนเป็นปัญหาเดียวจริงๆ ก็อาจจะต้องหาเหตุผลหรือทางเลือกอื่นๆ ก่อนยุติความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะใช้ที่อุดหู นอนในห้องแยกเป็นบางโอกาส หรือชักชวนให้แฟนของคุณไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเพื่อแก้นอนกรน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ผ้าปิดจมูกหรือฟันยางที่สามารถช่วยลดอาการกรนได้และอาจจะเป็นวิธีแก้นอนกรนที่ช่วยให้แฟนของคุณมีอาการที่ดีขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมากับแฟนของคุณว่าอาการกรนส่งผลต่อคุณอย่างไร และหาทางร่วมกันเพื่อหาทางออกที่เหมาะกับคุณทั้งคู่แล้วจึงปรึกษากับแพทย์เพื่อช่วยแก้อาการนอนกรนผู้หญิง

ทำอย่างไรเมื่อแฟนนอนกรน

หากแฟนของคุณกรนและสร้างปัญหาให้กับคุณหรือคนรักของคุณ คุณสามารถลองทำสิ่งต่อไปนี้ ซึ่งเป็นวิธีแก้นอนกรน

1. แนะนำให้เธอเข้ารับการตรวจทางการแพทย์ หากแฟนนอนกรนเสียงดังหรือมีอาการหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับ อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ร้ายแรงกว่า เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ให้เธอพูดคุยกับแพทย์ที่สามารถช่วยวินิจฉัยและรักษาปัญหาพื้นฐานได้
2. ปรับท่านอน การนอนหงายอาจทำให้ลิ้นและเพดานอ่อนยุบไปทางด้านหลังของลำคอและอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดเสียงกรนได้ แนะนำให้แฟนของคุณนอนตะแคงแทน
3. ใช้เครื่องทำความชื้น อากาศแห้งอาจทำให้คอระคายเคืองและทำให้นอนกรนได้ เครื่องทำความชื้นสามารถช่วยให้อากาศชื้นและลดอาการกรนได้
4. ใช้ผ้าปิดจมูกหรือสเปรย์ฉีดจมูก ผ้าปิดจมูกสามารถช่วยเปิดโพรงจมูก ทำให้หายใจทางจมูกได้ง่ายขึ้นและลดการกรน สเปรย์ฉีดจมูกยังสามารถช่วยลดความอึดอัดของการหายใจ
5. รักษาน้ำหนักให้ตามเกณฑ์มาตรฐาน เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปอาจทำให้นอนกรนได้ สนับสนุนให้แฟนของคุณรักษาน้ำหนักให้ตามเกณฑ์มาตรฐานด้วยการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
6. ใช้ที่อุดหู ที่อุดหูสามารถช่วยลดเสียงกรนและทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
7. การผ่าตัด โดยใช้วิธีการผ่าที่เรียกว่า Uvulopalatopharyngoplasty (UPPP) ขั้นตอนการผ่าตัดนี้เกี่ยวข้องกับการนำเนื้อเยื่อส่วนเกินออกจากลำคอ รวมถึงลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล และส่วนของเพดานอ่อน
8. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด โดยการรักษานี้จะใช้อุปกรณ์รักษา เช่น เครื่อง CPAC , เครื่อง iNap , ใช้คลื่นความถี่ RF Bot , อุปกรณ์ทันตกรรม Oral Appliance และบำบัดด้วย Myofunctional Therapy 

หากการนอนกรนของแฟนสาวของคุณก่อให้เกิดปัญหาสำคัญต่อความสัมพันธ์ของคุณหรือสุขภาพของเธอ การพูดคุยกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับอาจเป็นเรื่องที่คุ้มค่าเพื่อพิจารณาทางเลือกในการรักษาเพิ่มเติม

5 วิธีแก้อาการนอนกรนผู้หญิง

การแก้อาการนอนกรนผู้หญิงนั้นคล้ายกับผู้ชายและขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง ต่อไปนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่อาจช่วยลดการนอนกรนผู้หญิงได้

1. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต: การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณสามารถช่วยลดการนอนกรนได้ การลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาระงับประสาทก่อนนอน และนอนตะแคงแทนที่จะนอนหงายอาจช่วยแก้อาการนอนกรนผู้หญิงได้
2. รักษาอาการคัดจมูก : หากคุณมีอาการคัดจมูก การรักษาด้วยยาลดน้ำมูก ผ้าปิดจมูก หรือสเปรย์น้ำเกลือสามารถช่วยลดอาการกรนได้
3. เครื่องช่วยหายใจแก้นอนกรน (CPAP) : เป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ระหว่างการนอนหลับและใช้ความดันอากาศเพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด และเป็นวิธีแก้นอนกรนที่เห็นผลในทางการแพทย์
4. อุปกรณ์ในช่องปาก : สามารถใช้อุปกรณ์ทันตกรรม(Oral Appliance) หรือฟันยางเพื่อจัดตำแหน่งกรามและลิ้นระหว่างการนอนหลับ ซึ่งช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดและลดอาการกรนได้
5. การผ่าตัด : ในบางกรณี อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อส่วนเกินในลำคอออกหรือจัดตำแหน่งของขากรรไกรเพื่อช่วยแก้นอนกรน

แม้ว่าการนอนกรนจะพบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ทั้งสองเพศก็สามารถนอนกรนได้ การวิจัยพบว่าประมาณ 40% ของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และ 24% ของผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่กรนเป็นประจำ การนอนกรนอาจรบกวนการนอนหลับและอาจเป็นอาการของภาวะที่ร้ายแรงกว่า เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังประสบปัญหาการนอนกรนหรือปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อรับการประเมินและแก้อาการนอนกรนผู้หญิงและผู้ชาย

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการนอนกรนเป็นอาการทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนทุกเพศทุกวัย และความรุนแรงของอาการกรนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากแฟนนอนกรนหรือคนที่คุณรู้จักกำลังมีอาการนอนกรนที่ดังและก่อกวน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด

อ่านเพิ่มเติม