
อยากรักษา ลูกกรนดัง ลูกหยุดหายใจขณะหลับ ลูกหายใจทางปาก ลูกนอนหายใจเสียงดัง เริ่มยังไงดี?
ลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดี?
หลังจากพอจะทราบถึงอันตรายของโรคนอนกรนในเด็กจากบทความอื่นๆไปบ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจรู้สึกไม่สบายใจหรือเป็นกังวลถึงสุขภาพของลูกน้อย
Vital Sleep Clinic จึงอยากแนะนำถึงขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยโรคนอนกรนในเด็กอย่างละเอียด การรักษาภาวะลูกนอนกรน ลูกหยุดหายใจขณะหลับ รวมทั้งแนะนำสถานที่ลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดี เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับมือกับภัยร้ายที่จ้องทำลายชีวิตลูกน้อยของคุณค่ะ
หัวข้อ
- ภาวะลูกนอนกรนแบบไหนที่ต้องเข้าพบแพทย์
- ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย
- แนวทางการรักษา
- ลูกหยุดหายใจขณะหลับ ลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดี?
ภาวะลูกนอนกรนแบบไหนที่ต้องเข้าพบแพทย์?
1. นอนกรนมากกว่า 3 คืน/สัปดาห์
2. ไม่มีสมาธิจดจ่อ ใต้ตาคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอน
3. พ่อแม่สังเกตเห็นว่ามีอาการสะดุ้งตื่น ผวา หายใจแรงเหมือนขาดอากาศหลังจากหยุดหายใจ
4. อาจมีท่านอนที่ผิดปกติเช่น ชอบนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ
5. ขณะหลับลูกมีริมฝีปากเขียวคล้ำ เพราะออกซิเจนไม่พอ
6. ปัสสาวะรดที่นอนทั้งที่เคยควบคุมได้มาก่อน
7. มีอาการหายใจติดขัดระหว่างนอน อาจมีอาการคล้ายสำลักน้ำลาย
ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยภาวะลูกนอนกรนอย่างละเอียด
การที่เด็กนอนกรน ไม่ว่าจะเป็น เด็กทารกนอนกรน หรือ เด็กเล็กนอนกรน สามารถวินิจฉัยได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. แพทย์ซักถามอาการคร่าวๆ จากพ่อแม่เกี่ยวกับอาการนอนกรนของลูก เช่น ลูกหายใจทางปากขณะนอนหลับหรือไม่ หรือ ลูกนอนหายใจเสียงดังร่วมกับมีภาวะนอนกรนหรือไม่ เป็นต้น
2. ตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด ระบบหายใจ รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งแนะนำว่าควรทำที่บ้านเพื่อได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำเพราะได้ลูกน้อยได้หลับนอนในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย
3. ตรวจร่างกายตั้งแต่บริเวณศีรษะ ใบหน้า หู คอ จมูก และช่องปาก รวมทั้งการตรวจปอด และหัวใจ หรือระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. ตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อทราบถึงสาเหตุ เช่น การ X-ray ครอบคลุมกะโหลกศีรษะและทางเดินหายใจส่วนต้นเพื่อดูความกว้างของทางเดินหายใจ เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคนอนกรนในเด็กและรักษาได้อย่างถูกต้อง

แนะนำการตรวจวินิจฉัย และรักษาลูกนอนกรนเบื้องต้น
แนวทางการรักษาลูกกรนดัง ลูกหายใจทางปาก และลูกนอนหายใจเสียงดังอย่างละเอียด
พ่อแม่สามารถดูแลลูกน้อยเบื้องต้น เช่น
- ใช้เวลานอนพักผ่อนให้พอเพียง
- ควบคุมน้ำหนักในเด็กที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การรักษาด้วยยา เช่น การให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก หรือยารักษาอาการจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือยาแก้อักเสบเพื่อรักษาต่อมทอนซิล ซึ่งเลือกใช้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับเด็กนอนกรนในแต่ละราย
การรักษาด้วยการผ่าตัด ปัจจุบันวิธีที่เป็นมาตรฐานและได้ผลดีมากที่สุด คือการผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ (ในรายที่มีอาการต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โต) เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง แต่มีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่ำ และไม่มีผลต่อภูมิต้านทานหรือการติดเชื้อภายหลัง
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดผู้ป่วยเด็ก เนื่องจากในบางราย การผ่าตัดอาจช่วยให้อาการเด็กนอนกรนหายดี แต่ไม่ได้ช่วยให้สภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Pediatric obstructive sleep apnea ; OSA) ดีขึ้นตามด้วย
ทั้งนี้ หลังจากผ่าตัดแล้ว ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการทดสอบการนอนหลับ อีกครั้ง นอกจากนี้ควรดูแล และรักษาสุขภาพของเด็กให้แข็งแรง ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้
การรักษาอื่น ๆ เช่น
เป็นศาสตร์ที่สามารถดูแลและป้องกันการเกิดพัฒนาการที่บกพร่องในส่วนของกล้ามเนื้อปาก ลิ้น และขากรรไกร ซึ่งสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป เนื่องจากการฝึกนี้เป็นการป้องกันให้เด็กไม่หายใจทางปาก (ซึ่งเป็นที่มาของอาการนอนกรนในเด็ก)
- เครื่อง CPAP ตลอดจนการจัดฟัน ซึ่งอาจเป็นทางเลือกกรณีรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ซึ่งต้องพิจารณาจากอาการเด็กนอนกรนเป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้

ลูกหยุดหายใจขณะหลับ ลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดี ?
หลังจากที่ทราบถึงขั้นตอนการตรวจและแนวทางการรักษาอาการนอนกรนในเด็กไปแล้ว หลายท่านคงมีคำถามว่า แล้วถ้าลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดีล่ะ? Vital Sleep Clinic จึงอยากอาสาไขข้อข้องใจตรงนี้ให้ทุกๆ ท่านได้ทราบ
ความเป็นจริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถนำลูกน้อยไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลที่มีแผนกกุมารเวช หรือตามคลินิกทั่วไปเพื่อวินิจฉัยอาการเบื้องต้นได้ แต่หากว่าได้รักษากับคุณหมอเฉพาะทางที่มีประสบการณ์การรักษาโรคนอนกรนในเด็กโดยตรง คุณพ่อคุณแม่ก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่า ลูกน้อยของคุณจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัย และจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลได้
ซึ่งทาง Vital Sleep Clinic มี ทพ.ดร. อมรพงษ์ วชิรมน ที่เป็นอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญในด้านการรักษานอนกรนโดยเฉพาะ อาจารย์หมอได้ผ่านการเรียนหลักสูตร American Board of Dental Sleep Medicine ซึ่งเป็นหลักสูตรในด้านการแพทย์และเทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวกับโรคจากการนอนหลับเช่น โรคนอนกรน โรคนอนกัดฟัน โรคข้อต่อขากรรไกรอักเสบ เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณหมอยังเป็น ศัลยแพทย์ที่มากประสบการณ์ จึงมีความชำนาญทั้งในการผ่าตัดใหญ่และผ่าตัดเล็ก คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถไว้วางใจได้ หากลูกน้อยของคุณได้รับการวินิจฉัยว่าต้องผ่าตัดเพื่อแก้นอนกรนค่ะ
สรุป
ภาวะลูกนอนกรน ลูกหายใจทางปาก ลูกนอนหายใจเสียงดัง ลูกหยุดหายใจขณะหลับ เป็นโรคที่ไม่อาจละเลยได้ เนื่องจากมีผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาของเด็ก หากคุณพ่อคุณแม่กำลังศึกษาข้อมูลและมองหาสถานพยาบาลรักษาลูกนอนกรน หาหมอที่ไหนดี อาจรับ Vital Sleep Clinic ไว้พิจารณา เพื่อลูกน้อยของท่านจะได้รับการตรวจรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของเด็กอย่างชัดเจน และช่วยคลายความกังวลของผู้ปกครองได้ไม่มากก็น้อย
ทำไมต้องรักษาโรคนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คลินิกของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการศึกษาและรับรองจากสถาบันนานาชาติ เรามีใบรับรองแพทย์เฉพาะทาง เกี่ยวกับกล้ามเนื้อทางใบหน้าที่ผิดปกติ เช่นช่องปากและลิ้น เป็นต้น
เทคโนโลยีที่ทันสมัย
VitalSleep Clinic มีเทคโนโลยีในการรักษามากมาย ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีการบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ Myofunction Theraphy และจำหน่ายอุปกรณ์ลดการกัดฟันและข้อต่อขากรรไกรอักเสบ เช่น Myosa®
เสียงตอบรับ
ใครๆก็ไว้ใจให้ VitalSleep Clinic ดูแลรักษาอาการนอนกรน,ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ,นอนกัดฟัน,ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่
VitalSleep Clinic ตั้งอยู่ที่ตึกพญาไทพลาซ่า ชั้น 33 ใกล้ BTS เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวกในการเดินทาง
เรามีคลินิกที่มีเจ้าหน้าที่พร้อมบริการและต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร เราใส่ใจในการบริการและจริงใจต่อทุกคน