หลับๆตื่นๆ นอนไม่พอ เราขอแนะนำตรวจ sleeptest

หลับๆตื่นๆนอนไม่พอ เราขอแนะนำ ตรวจ Sleep Test

หัวข้อย่อย

นอนไม่พอควรตรวจการนอนหลับ

นอนไม่พอ จากการ สะดุ้งตื่น กลางดึกหรือ ฝันร้าย หรือคนข้างกาย กรนดังมาก จนทำให้ตื่น อาจส่งผลเสียอย่างมากต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณ ส่งผลอันตรายบางอย่างต่อร่างกายของเรา เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการเจ็บป่วยมากขึ้น มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน การอดนอนอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความจำ สมาธิสั้น และการตัดสินใจที่บกพร่อง อีกทั้งยังอาจทำให้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเกิดโรคใหลตายได้ ดังนั้นควรเข้ารับการตรวจ sleeptest เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายในอนาคต มาไขข้อสงสัยว่าควร ตรวจการนอนหลับ หรือ sleep test ที่ไหนดี และ sleep test ราคาเท่าไหร่

Sleep Test คืออะไร มาทำความรู้จักกัน

SleepTest คืออะไรมาทำความรู้จักกัน

sleeptest หรือ Sleep Study เป็นการตรวจวัดและวิเคราะห์การนอนหลับของผู้ป่วยโดยใช้เครื่องมือที่เฉพาะเจาะจงเพื่อวิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ หลักการของ sleep test คือการวัดและบันทึกสถานะการนอนหลับและระดับการหลับของผู้ป่วยผ่านเครื่องมือที่เชื่อมต่อกับร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งสามารถวิเคราะห์ว่าหลับสนิท หลับลึก ความถี่ในการตื่นขึ้นมาในช่วงเวลากลางคืนและอาการหยุดหายใจในขณะที่หลับได้ หรือแม้แต่การที่เราฝันร้ายบ่อยครั้งจนทำให้สะดุ้งตื่นกลางดึก ก็สามารถเข้าตรวจ sleep test ได้

กลุ่มบุคคลเสี่ยงที่ควร ตรวจการนอนหลับ

บุคคลดังต่อไปนี้ ควรเข้าตรวจ sleeptest

  1. บุคคลที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับ หากคุณมีอาการต่างๆ เช่น เสียง กรนดังมาก หายใจไม่ออกระหว่างการนอนหลับ อ่อนเพลียตอนกลางวัน ปวดศีรษะตอนเช้า และมีสมาธิลำบาก คุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับและควรเข้ารับการ ตรวจการนอนหลับ
  2. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  3. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงเป็นอาการร่วมของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อยในภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ดังนั้นหากคุณเป็นโรคเบาหวาน คุณอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  4. บุคคลที่มีประวัติครอบครัวมีอาการหยุดหายใจขณะหลับ
  5. ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจ หากคุณมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจ คุณอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค หยุดหายใจขณะหลับ บุคคลที่ตื่นบ่อยในตอนกลางคืน

จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลุ่มเสี่ยงแต่อาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาเป็นกรณีไป

ประโยชน์ของการทำ Sleep Test

การทำ sleeptest มีประโยชน์สำหรับการวินิจฉัยและรักษาอาการผิดปกติของการนอนหลับ เพื่อวางแผนการรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ดังต่อไปนี้

  1. การทดสอบการนอนหลับสามารถช่วยวินิจฉัยความผิดปกติของการนอนหลับได้หลากหลาย รวมถึงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ภาวะลมหลับผิดปกติ และโรคนอนไม่หลับ การระบุความผิดปกติเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้นได้
  2. แผนการรักษาที่กำหนดเองได้ เมื่อวินิจฉัยความผิดปกติของการนอนหลับแล้ว สามารถสร้างแผนการรักษาที่กำหนดเองได้ แผนการรักษาอาจรวมถึงการรับประทานยา การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต หรือการใช้เครื่อง CPAP (continuous positive airway pressure)
  3. คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การรักษาความผิดปกติของการนอนหลับสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมได้โดยการลดความง่วงนอนในเวลากลางวัน ปรับปรุงอารมณ์และการทำงานของสมอง และลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่เกิดจากอาการง่วงนอน
  4. สุขภาพร่างกายดีขึ้น ความผิดปกติของการนอนที่ไม่ได้รับการรักษามีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพร่างกายหลายอย่าง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ การรักษาความผิดปกติเหล่านี้สามารถช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นได้
  5. สุขภาพจิตดีขึ้น การนอนหลับไม่ดียังเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า การรักษาความผิดปกติของการนอนหลับสามารถช่วยให้สุขภาพจิตและความเป็นอยู่โดยรวมดีขึ้นได้

โดยรวมแล้ว การทดสอบการนอนหลับสามารถช่วยในการวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของการนอน ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้น

ความเสี่ยงที่เกิดจากการตรวจการนอนหลับ

การตรวจสอบการนอนหลับซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อติดตามรูปแบบการนอนของแต่ละคน โดยทั่วไปมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อาจมีความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังต่อไปนี้

  1. การระคายเคืองผิวหนังจากอุปกรณ์บางอย่าง เช่น อุปกรณ์ที่ติดกับผิวหนังหรือเส้นผม ที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือไม่สบายได้
  2. ผลบวกปลอมหรือผลลบ อุปกรณ์ตรวจการนอนหลับอาจไม่สามารถบันทึกทุกแง่มุมของการนอนหลับของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำเสมอไป ซึ่งอาจนำไปสู่ผลบวกหรือลบที่ผิดพลาดได้
  3. ข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ตรวจสอบการนอนหลับที่ใช้ อาจมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลที่รวบรวม
  4. เกิดภาวะวิตกกังวลหรือความเครียด หากรู้ว่าระหว่างการนอนหลับจะมีเครื่องมือต่างๆมาติดตามร่างกายอาจทำให้เกิดภาวะวิตกกังวลหรือความเครียด ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับและความถูกต้องของข้อมูลที่รวบรวมได้
  5. การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป มีความเสี่ยงที่บุคคลอาจพึ่งพาเทคโนโลยีในการจัดการการนอนหลับมากเกินไป แทนที่จะใช้นิสัยการนอนที่ดีต่อสุขภาพและจัดการกับปัจจัยทางการแพทย์หรือไลฟ์สไตล์ที่แฝงอยู่

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าความเสี่ยงที่เกิดจากการตรวจสอบการนอนหลับโดยทั่วไปค่อนข้างต่ำ และประโยชน์ของการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัยหรือการรักษามักมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ตรวจวัดการนอนหลับ คุณควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพของคุณ

ทำ SleepTest ที่ไหนดี

หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าทำ sleep test ที่ไหนดี การ ตรวจการนอนหลับ สามารถทำได้ทั้งในโรงพยาบาลและคลินิกด้านการนอนหลับ (sleep clinic) โดยโรงพยาบาลที่มีแผนกนอนหลับ (sleep center) จะมีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับที่ได้รับการมีประสบการณ์ในการตรวจ sleep test  เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจการนอนหลับที่บ้าน (home sleep test) ซึ่งเป็นการตรวจ sleep test ที่สะดวกและสามารถทำได้บ้าง โดยมีเครื่องมือวัดและบันทึกการทำงานของร่างกายในขณะที่ผู้ป่วยนอนหลับอยู่ที่บ้าน ดังนั้น การเลือกสถานที่ตรวจ sleep test ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของผู้ป่วย รวมถึงความสะดวกและความพร้อมของตัวผู้ป่วยเองด้วย

การทำ sleeptest ราคา อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่รับตรวจ sleeptest สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการเฉพาะที่มีให้ ทั้งนี้ควรหาสถานที่ในการทำ sleep test ใกล้คุณ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่คุณจะสามารถขอคำแนะนำและคุณสามารถตรวจสอบกับบริษัทประกันสุขภาพของคุณเพื่อดูว่ามีรายชื่อสถานที่ ตรวจการนอนหลับ ที่แนะนำซึ่งครอบคลุมในแผนประกันของคุณหรือไม่

การเตรียมตัวเข้ารับการตรวจ SleepTest

  1. อาบน้ำและสระผมมาก่อนการทำ sleeptest และไม่ควรใส่น้ำมันบำรุงผม
  2. พยายามหลีกเลี่ยงการงีบหลับในระหว่างวันก่อนการทดสอบการนอนหลับ
  3. หลีกเลี่ยงการใช้สารกระตุ้น เช่น นิโคตินหรือคาเฟอีนเป็นเวลาอย่างน้อยสี่ชั่วโมงก่อนการทดสอบการนอนหลับ
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ครีม โลชั่น หรือน้ำมันบนผิวของคุณก่อนการตรวจ เนื่องจากอาจรบกวนเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจสอบการนอนหลับของคุณได้
  5. หากมียาที่ต้องทานเป็นประจำควรนำติดตัวมาด้วย
  6. มาถึงตรงเวลานัดหมายการตรวจการนอนหลับของคุณเพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับเจ้าหน้าที่ในการติดตั้งเซ็นเซอร์และเพื่อให้คุณได้ปรับตัวในคืนนี้

โปรดจำไว้ว่าการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของคุณ ดังนั้นพยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพราะหาก นอนไม่พอ อาจส่งผลกระทบต่อการเข้าตรวจและปฏิบัติตามคำแนะนำที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเพื่อให้แน่ใจว่าผลการทดสอบการนอนหลับของคุณแม่นยำและเชื่อถือได้

อ่านเพิ่มเติม

ตรวจการนอนหลับ Sleep Test

ตรวจสุขภาพการนอนหลับ (Sleep test)

ทำ Sleep Test (Sleep apnea test) ตรวจการนอนหลับ ทดสอบการนอนหลับ การนอนกรน วินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของโรคภาวะหยุดหายใจชนิดอุดกั้น…

อ่านต่อ

ตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic

การตรวจการนอนหลับที่ Vital Sleep Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับนานาชาติ American Board of Dental Sleep Medicine

และที่ Vital Sleep Clinic มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย การรักษาที่หลากหลายทั้งแบบผ่าตัดและการรักษาแบบไม่ผ่าตัด นอกจากนี้เรายังยังมีการบำบัดแบบ Myofunction Theraphy มีการจำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรมแก้กรน Oral Applince หรือเครื่องช่วยหายใจแก้กรน CPAP

Promotion Sleep Test

Vital Sleep Clinic มี Promotion การตรวจการนอนหลับ ดังนี้

โปรแกรมการตรวจการนอนหลับ Sleep Test ราคา 6,900 บาท

โปรแกรมการตรวจการนอนหลับแบบ FULL Sleep Test ราคา 8,800 บาท

Scroll to Top