ลองนึกภาพว่าคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคนที่คุณรัก…ไม่ได้ตื่นขึ้นอีกเลย เสียงกรนเมื่อคืนดูเหมือนไม่ใช่เรื่องตลกอีกต่อไป นั่นแหละคือ “อาการใหลตาย” ภัยเงียบที่มักเริ่มจากเรื่องเล็กๆ อย่าง “การนอนกรน” แต่คุณรู้ไหม? มันมีทางรอดและมันชื่อว่า sleep lab
Sleep Lab คืออะไร?
sleep lab คือห้องปฏิบัติการตรวจการนอนหลับที่มีอุปกรณ์ครบ สำหรับวัดการทำงานของร่างกายขณะที่เรากำลังนอนหลับ เช่น สมอง หัวใจ การหายใจ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ฯลฯ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาการนอนโดยเฉพาะ
ความสำคัญของการตรวจการนอนหลับในห้อง sleep lab
หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า การนอนของเราส่งผลต่อชีวิตขนาดไหน การหายใจที่สะดุดติดขัดซ้ำ ๆ ขณะนอนหลับ อาจทำให้หัวใจของเราขาดออกซิเจนเฉียบพลันและหยุดเต้นไปเลยโดยไม่รู้ตัว
งานวิจัยล่าสุดจากศูนย์การแพทย์ Johns Hopkins พบว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะ OSA มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจ โดยการใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) สามารถช่วยลดระดับกรดไขมันอิสระและกลูโคสในเลือดขณะนอนหลับได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Johns Hopkins
รู้จัก “ใหลตาย” ภัยเงียบที่น่ากลัว
อาการใหลตายคืออะไร?
อาการใหลตาย หรือ Sudden Unexpected Death in Sleep หรือ SUDS มักเกิดในคนที่ดูสุขภาพดี ไม่ได้มีโรคร้ายแรงมาก่อน แต่มีปัญหาการหายใจขณะหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (OSA)
ความเกี่ยวข้องระหว่างอาการใหลตายกับการรักษา กรน
การกรนเสียงดังสม่ำเสมอ สลับกับช่วงเงียบบ่อย ๆ เป็นสัญญาณของการหยุดหายใจ นั่นก็คือ “จุดเริ่มต้นของอาการใหลตาย” หากไม่รีบทำการรักษา
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
- ง่วงกลางวัน
- ตื่นกลางดึกหอบหายใจ
- ปวดหัวหลังตื่นนอน
- เสียงกรนที่ไม่สม่ำเสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง ใหลตายเกิดจากอะไร? และอันตรายที่ซ่อนอยู่
ทำไม? คนที่นอนกรนควรเข้ารับการตรวจที่ sleep lab
รักษา คนนอนกรน เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเรามีอาการหยุดหายใจขณะหลับ
ขั้นตอนของการตรวจการนอนหลับใน sleep lab
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ในห้อง sleep lab คือกระบวนการที่ออกแบบมาเพื่อค้นหาต้นเหตุของปัญหาการนอนหลับ เช่น รักษา กรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และภาวะใหลตาย โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจจับความผิดปกติที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
- นัดหมายล่วงหน้าและปรึกษาแพทย์
ก่อนการตรวจ จะต้องพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น เช่น
- นอนกรนเสียงดัง
- ตื่นกลางดึกบ่อย
- รู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมง
- หายใจสะดุดหรือหยุดหายใจระหว่างหลับ
หากแพทย์เฉพาะทางพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยง แนะนำให้เข้ารับการตรวจในห้อง sleep lab เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียด
- เตรียมตัวก่อนเข้าห้อง sleep lab
ก่อนเข้ารับการตรวจ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนการตรวจ
- ไม่ทาโลชั่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมที่มีน้ำมัน
- นำชุดนอนส่วนตัวมาเอง เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับตามธรรมชาติ
- รับประทานข้าวเย็นให้เรียบร้อย
- เข้าห้องตรวจการนอนหลับ
เมื่อเดินทางมาถึงคลินิกหรือโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะพาไปยังห้องพักส่วนตัวที่ถูกออกแบบให้เงียบ สะอาด และอบอุ่นเหมือนห้องนอนจริง
จากนั้น เจ้าหน้าที่จะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจวัดต่าง ๆ ได้แก่
- เซนเซอร์วัดคลื่นสมอง (EEG) ตรวจวัดระดับการหลับ
- เซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหวของลูกตา (EOG)
- เซนเซอร์วัดลมหายใจที่จมูกและปาก
- สายรัดหน้าอกและท้อง เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวขณะหายใจ
- เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของขา
- เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด (Pulse Oximeter)
- การบันทึกข้อมูลตลอดคืน
เมื่อคุณหลับ อุปกรณ์ทั้งหมดจะเริ่มบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ข้อมูลทั้งหมดนี้จะนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น
- ระดับการหายใจ
- การกรน
- จำนวนครั้งที่หยุดหายใจ
- ระดับออกซิเจน
- จังหวะการเต้นของหัวใจ
- การเคลื่อนไหวของร่างกาย
- ตื่นเช้าและกลับบ้านตามปกติ
ในตอนเช้า เจ้าหน้าที่จะนำอุปกรณ์ออกอย่างระมัดระวัง คุณสามารถอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องนอนพักต่อ และแพทย์จะนัดหมายให้คุณมาฟังผลการตรวจอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำในการดูแลตัวเองหรือแนวทางการรักษาต่อไป
สรุป
การตรวจการนอนหลับใน sleep lab เป็นวิธีสำคัญในการวินิจฉัยรักษา คนนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ และภาวะใหลตายอย่างแม่นยำ
ขั้นตอนเริ่มจากปรึกษาแพทย์ เตรียมตัว ตรวจในห้อง พร้อมบันทึกข้อมูลตลอดคืน ผลการตรวจช่วยให้แพทย์วางแผนรักษา กรนได้ตรงจุด ป้องกันภาวะเสี่ยงในอนาคต เพราะการนอนดี คือกุญแจสำคัญของสุขภาพที่ยั่งยืน
อย่ารอให้สาย…ถ้ามีสัญญาณผิดปกติ ควรตรวจให้รู้ทันตั้งแต่วันนี้