เครื่อง BiPAP คืออะไร BiPAP กับ CPAP ต่างกันยังไง
BiPAP กับ CPAP เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจที่ได้รับความนิยม การรักษาด้วยวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาการหยุดหายใจได้อย่างรวดเร็ว (หรือที่เรียกว่า sleep apnea) ถ้าคุณมีปัญหานี้ มีแนวโน้มเป็นไปได้ที่แพทย์จะแนะนำให้รักษาโดยเครื่อง CPAP หรือ BiPAP หลายท่านอาจสงสัยว่า อุปกรณ์ทั้งสองชนิดนี้ต่างกันยังไง CPAP และ BiPAP เหมาะกับใคร มาหาคำตอบกันค่ะว่าระหว่าง BiPAP และ CPAP มีความแตกต่างกันยังไง หลักการทำงานของ BiPAP และ CPAP เป็นอย่างไร อุปกรณ์ชนิดไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
ข้อควรรู้ก่อนใช้ CPAP
CPAP คืออะไร?
CPAP ย่อมาจาก Continuous Positive Airway Pressure เป็นอุปกรณ์แก้กรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ได้รับความนิยม หลักการคือ การใช้ความดันอาการศที่ผลิตจากตัวเครื่อง CPAP ซึ่งถูกส่งผ่านท่ออากาศเข้าสู่หน้ากากที่ครอบอยู่เหนือปากและจมูก
การทำงานของ CPAP เป็นยังไง?
การบำบัดด้วยอุปกรณ์ชนิดนี้ ออกแบบมาเพื่อส่งแรงดันอากาศผ่านรูจมูกเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการส่งอากาศเพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดในระหว่างการนอนหลับ
CPAP เหมาะกับใคร?
การรักษาด้วยเครื่อง CPAP จะใช้ในคนไข้ที่มีปัญหาการหายใจอย่างรุนแรงระหว่างหลับ เครื่อง CPAP ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพราะพวกเขาอาจได้รับอากาศที่ไม่เพียงพอขณะนอนหลับ นอกจากจะใช้รักษาในผู้ใหญ่แล้ว CPAP ยังใช้รักษาในทารกที่ปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ได้รับอากาศเข้าไปเพียงพอมากขึ้น
เครื่องช่วยหายใจ CPAP มีขนาดอย่างไร?
CPAP แต่ละรุ่นมีขนาดและน้ำหนักแตกต่างกันออกไป แต่โดยปกติแล้วจะมีขนาดที่สามารถพกพาได้ แนะนำให้เลือก CPAP ที่มีขนาดเหมาะกับการใช้งานของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้ที่บ้าน เครื่อง CPAP ที่ขนาดใหญ่อาจไม่ใช่ปัญหา แต่หากเป็นคนที่เดินทางบ่อย อาจเลือกซื้อเครื่องที่มีขนาดเล็กลง
ข้อควรรู้ก่อนใช้ BiPAP
BiPAP คืออะไร?
BiPAP คือเครื่องช่วยหายใจชนิดหนึ่ง มีชื่อย่อมาจาก Bilevel หรือ two-level Positive Airway Pressure หลักการทำงานของBiPAP กับ CPAP มีลักษณะคล้ายกัน ตรงที่มีการส่งอากาศผ่านท่อหายใจเข้าสู่หน้ากากที่ครอบอยู่เหนือจมูก แม้ว่าหลักการทำงานของ BiPAP กับ CPAP จะคล้ายกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือหลักการทำงาน
CPAP จะมีความดันอากาศที่เท่ากันทั้งจังหวะหายใจเข้าและหายใจออกทั้งแบบ manual และ automatic ถ้าเป็นเครื่อง CPAP แบบ manual แรงดันจะเท่ากันตลอดทั้งคืน แต่ถ้าเป็นระบบ Auto แรงดันขึ้นอยู่กับระดับการกรน ทั้งนี้ แรงดันของเครื่อง CPAP แบบ Auto จะเท่ากันในจังหวะหายใจเข้าและออกตลอดทั้งคืน
เครื่องช่วยหายใจ BiPAP จะมีความดันอากาศที่แตกต่างกันขณะที่มีจังหวะหายใจเข้าและออก ทั้งนี้ความดันอากาศจะสามารถตั้งค่าได้ตามความเหมาะสมของผู้ใช้ นอกจากนี้ BiPAP คือ เครื่องช่วยหายใจที่สามารถใช้รักษาโรคทางเดินหายใจบางชนิดได้เช่น โรคถุงลมโป่งพอง ความผิดปกติของระบบประสาท กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เป็นต้น
หลักการทำงานของ BiPAPเป็นอย่างไร?
โดยปกติเครื่อง BiPAP จะมีการตั้งค่าให้ความดันระหว่างจังหวะการหายใจเข้าและหายใจออกแตกต่างกัน เมื่อคนไข้ไม่สามารถหายใจได้ปกติ เครื่อง BiPAP จะถูกเซ็ตให้ส่งอากาศผ่านท่อหายใจ โดยปกติมักจะเซ็ตเป็นความดันขั้นต่ำ การตั้งค่านี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้ตามความถี่ที่กำหนดไว้ต่อนาที
BiPAPเหมาะกับใคร?
การรักษาด้วย BiPAP มักใช้กับผู้ที่ต้องการการช่วยหายใจเป็นพิเศษ ส่วนมากมักนิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และความผิดปกติทางการแพทย์เกี่ยวกับปอดหรือระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปกรณ์ BiPAP อาจเหมาะกับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อเพราะสามารถปรับความดันขณะที่หายใจเข้าและหายใจออกได้
เครื่องช่วยหายใจBiPAPมีขนาดอย่างไร?
ตัวเครื่องของ BiPAP มีขนาดเท่าๆกับเครื่อง CPAP แต่จะออกแบบมาให้มีเสียงเงียบกว่า เครื่อง BiPAP ส่วนมากจะมีตัวเพิ่มความชื้นเพื่อป้องกันการแห้งของเยื่อเมือกภายในจมูกด้วย
BiPAPและ CPAP มีความแตกต่างกันยังไง?
อุปกรณ์ BiPAP กับ CPAP มีลักษณะภายนอกที่เหมือนกัน รวมถึงหน้ากากที่ใช้ครอบก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ อุปกรณ์ทั้งสองจะมีจุดประสงค์ในการรักษาที่แตกต่างกัน และมีข้อดีที่แตกต่างกันด้วย เครื่อง CPAP จะใช้รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับในขั้นตอนแรก แต่เครื่อง BiPAP จะใช้รักษาความผิดปกติของระบบประสาท ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ซับซ้อน
ส่วนในเรื่องของราคา BiPAP จะมีราคาที่สูงกว่า CPAP โดยปกติแล้วเครื่องช่วยหายใจ BiPAP มักจะใช้ตอนที่ผู้ป่วยเคยทดลองใช้ CPAP แล้วรู้สึกไม่ตอบโจทย์ หนึ่งในข้อดีของเครื่อง BiPAP คือความดันขณะหายใจออกไม่เท่ากับตอนหายใจเข้า ซึ่งต้องการใช้ความดันที่น้อยกว่า BiPAP และ CPAP สรุปง่ายๆ คือ BiPAP ช่วยในการหายใจได้ค่อนข้างดีกว่า CPAP
สรุป
หากถามว่า CPAP และ BiPAP เหมาะกับใคร หรือ BiPAP และ CPAP มีความแตกต่างกันยังไง อาจสรุปได้ว่า การรักษาด้วย BiPAP กับ CPAP เป็นวิธีที่นิยมรักษาในผู้ทีมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทั้ง BiPAP กับ CPAPก็มีจุดประสงค์และข้อดีในตัวเอง แต่อุปกรณ์ทั้งสองจะเหมาะสมในกรณีที่ใช้ให้ถูกกับอาการของคนไข้ ทั้งนี้ อาจปรึกษาคุณหมอผู้ดูแลเคสและทำความเข้าใจรายละเอียดของภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจที่เป็นอยู่ จากนั้นจึงเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับอาการ
ทำไมต้องรักษาโรคนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คลินิกของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการศึกษาและรับรองจากสถาบันนานาชาติ เรามีใบรับรองแพทย์เฉพาะทาง เกี่ยวกับกล้ามเนื้อทางใบหน้าที่ผิดปกติ เช่นช่องปากและลิ้น เป็นต้น
เทคโนโลยีที่ทันสมัย
VitalSleep Clinic มีเทคโนโลยีในการรักษามากมาย ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีการบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ Myofunction Theraphy และจำหน่ายอุปกรณ์ลดการกัดฟันและข้อต่อขากรรไกรอักเสบ เช่น Myosa®
เสียงตอบรับ
ใครๆก็ไว้ใจให้ VitalSleep Clinic ดูแลรักษาอาการนอนกรน,ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ,นอนกัดฟัน,ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ
ติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่
VitalSleep Clinic ตั้งอยู่ที่ตึกพญาไทพลาซ่า ชั้น 33 ใกล้ BTS เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวกในการเดินทาง
เรามีคลินิกที่มีเจ้าหน้าที่พร้อมบริการและต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร เราใส่ใจในการบริการและจริงใจต่อทุกคน