ศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic เกี่ยวข้องอย่างไร

ศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

ศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic เพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดี

ในปี 2025 การตรวจการนอนหลับก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย ทำให้การวินิจฉัยแม่นยำและสะดวกขึ้น ไม่ว่าคุณกำลังมีปัญหานอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือคุณภาพการนอนที่ลดลง การตรวจนอนกรนในปัจจุบันช่วยให้การดูแลสุขภาพของคุณเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด

การนอนหลับเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพที่ดี หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานอนหลับ เช่น นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือตื่นมาแล้วไม่สดชื่น VitalSleep Clinic พร้อมเป็นคำตอบที่ช่วยให้คุณหลับสนิท และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยีและการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ

ทำไมต้องตรวจคุณภาพการนอนหลับ?

การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในทุก ๆ วัน ปัญหาการนอนหลับกลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม อาการนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือความรู้สึกอ่อนเพลียในตอนเช้า อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้น

ความสำคัญของ Sleep Test

Sleep Test หรือการตรวจการนอนหลับ เป็นกระบวนการที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการนอนหลับของคุณอย่างละเอียด เช่น อัตราการหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือด และกิจกรรมของสมองในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์เฉพาะทางสามารถวินิจฉัยปัญหาสุขภาพการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อย่างแม่นยำ

ใครบ้างที่ควรตรวจการนอนหลับ?

ใครบ้างที่ควรตรวจการนอนหลับ?

การตรวจนอนกรนมีคนหลายกลุ่มที่ควรได้รับการตรวจ เนื่องจากมีปัญหาที่อาจซ่อนอยู่และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ ควรรีบเข้ามาปรึกษาหรือรับการตรวจ Sleep Test ทันที

  1. คนที่นอนกรนเสียงดัง
    การนอนกรนเสียงดังเป็นสัญญาณที่บอกถึงปัญหาความผิดปกติของทางเดินหายใจขณะหลับ โดยเฉพาะคนที่นอนกรนร่วมกับการหยุดหายใจระหว่างหลับเป็นช่วง ๆ อาจเสี่ยงต่อ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)” อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมองด้วย
  2. คนที่มีอาการง่วงนอนระหว่างวันอย่างรุนแรง
    หากคุณรู้สึกง่วงระหว่างวันตลอดเวลา แม้ว่าจะนอนหลับอย่างเพียงพอในตอนกลางคืน อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีภาวะการนอนหลับผิดปกติ เช่น Narcolepsy หรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจ Sleep Test จะช่วยวินิจฉัยและหาสาเหตุได้อย่างแม่นยำ
  3. คนที่มีพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับ
    หากสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ขณะหลับของคุณหรือคนใกล้ชิด เช่น ละเมอ เดินละเมอ กัดฟัน หรือขยับร่างกายโดยไม่รู้ตัวในช่วงกลางคืน การตรวจการนอนหลับจะช่วยวินิจฉัยความผิดปกติเหล่านี้
  4. คนที่มีโรคประจำตัวที่อาจเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
    • ผู้ป่วยโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับสามารถเพิ่มความเสี่ยงของอาการเหล่านี้
    • ผู้ป่วยเบาหวาน การนอนหลับไม่ดีอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมดุล
    • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง การหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคนี้
  5. คนที่ตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่น
    หากตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า แม้ว่าจะนอนหลับเพียงพอในเวลากลางคืน อาจเกิดจากภาวะการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ เช่น Restless Legs Syndrome (RLS) และ การหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งควรได้รับการวินิจฉัยโดยเร็ว
  6. คนที่มีปัญหาสุขภาพจิต
    ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าสามารถรบกวนคุณภาพการนอนหลับได้ การตรวจการนอนหลับช่วยหาความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาสุขภาพจิตและการนอนหลับผิดปกติ Sleep Test ราคาที่เหมาะสมเพื่อปรับวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  7. คนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
    น้ำหนักตัวที่มากเกินไปส่งผลโดยตรงต่อทางเดินหายใจส เพราะทำให้เกิดการตีบตันและนำไปสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจ Sleep Test ช่วยประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  8. ผู้สูงอายุ
    เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อปัญหาการนอนหลับ เช่น การหยุดหายใจขณะหลับ หรือ ภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง (Chronic Insomnia) จะเพิ่มขึ้น การตรวจ Sleep Test ราคาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
  9. คนที่ทำงานเป็นกะ หรือเปลี่ยนเวลานอนบ่อย
    การทำงานเป็นกะส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย (Circadian Rhythm) เพราะอาจทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่สนิท การตรวจ Sleep Test สามารถช่วยวินิจฉัยและแนะนำวิธีการจัดการปัญหาเหล่านี้ได้

ศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับทางเลือกที่ตอบโจทย์ชีวิตคุณ

การเลือกศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับที่น่าเชื่อถือและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม

บริการตรวจคุณภาพการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic

1. การตรวจ Sleep Test ที่หลากหลาย

VitalSleep Clinic มีบริการตรวจการนอนหลับที่หลากหลาย เพื่อรองรับทุกความต้องการ

  • Home Sleep Test ทางเลือกสะดวกสำหรับคนที่ต้องการตรวจการนอนหลับในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย
  • Full Sleep Test เหมาะสำหรับการตรวจวินิจฉัยที่ต้องการความละเอียดสูง มีเจ้าหน้าที่ไปแนะนำการตรวจให้ที่บ้าน

2. การตรวจการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ปัญหานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นเรื่องที่ควรต้องใส่ใจ เรามีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาที่ตรงจุด

3. การรักษาเฉพาะทางแบบครบวงจร

  • การฝึกกล้ามเนื้อช่องปากและลำคอ (Myofunctional Therapy)
  • การรักษาด้วย Radiofrequency (RF Bot)
  • การร้อยไหม รักษานอนกรน
  • การใช้เลเซอร์ Laser รักษานอนกรน
  • การผ่าตัดเลื่อนกระดูกขากรรไกรหรือ Maxillomandibular Advancement Surgery (MMA)
  • การใช้ เครื่อง CPAP หรือ BiPAP

ขั้นตอนการตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic

  1. นัดหมายเพื่อปรึกษาเบื้องต้น
    ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการนอนหลับของคุณ และประเมินว่าคุณเหมาะกับการตรวจการนอนหลับรูปแบบไหน
  2. การตรวจวินิจฉัยด้วย Sleep Test
    คุณสามารถเลือกตรวจการนอนหลับแบบไหนก็ได้ตามความสะดวกของแต่ละคน โดยใช้อุปกรณ์ที่สะดวกสบายกับการใช้งาน ทันสมัยและได้รับมาตรฐาน
  3. การวิเคราะห์ผลและแนะนำการรักษา
    หลังจากได้ผลตรวจแล้ว แพทย์เฉพาะทางจะวิเคราะห์และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
สัญญาณเตือนที่ควรตรวจการนอนหลับ

สัญญาณที่บอกว่าคุณควรตรวจการนอนหลับ

  • มีอาการนอนกรนเสียงดัง
  • ตื่นบ่อยระหว่างคืน รู้สึกอึดอัดขณะหลับ
  • ง่วงนอนระหว่างวันบ่อย ๆ
  • ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น แม้นอนเพียงพอ

VitalSleep Clinic การแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์กับทุกคน

VitalSleep Clinic มุ่งเน้นการรักษาและการดูแลที่เป็นมิตรต่อคนไข้ ด้วยบริการที่เข้าใจถึงปัญหาของแต่ละบุคคล คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ตั้งแต่การตรวจจนถึงการฟื้นฟูคุณภาพการนอนหลับ

ตอบคำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ที่ VitalSleep Clinic มีบริการอะไรบ้าง?

VitalSleep Clinic มีบริการตรวจและรักษาปัญหาการนอนหลับ เช่น Sleep Test, การรักษานอนกรน การฝึกกล้ามเนื้อช่องปาก และอื่น ๆ

2. Sleep Test ถูกที่สุดเท่าไหร่?

ตรวจการนอนหลับ ราคามีหลากหลาย เริ่มต้น 6,900 บาท หากสนใจตรวจการนอนกรน ราคานี้คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้

3. หลังตรวจการนอนหลับต้องทำอะไรต่อ?

ทีมแพทย์เฉพาะทางของเราจะให้คำแนะนำการรักษาเฉพาะบุคคล เช่น การฝึกกล้ามเนื้อช่องปาก การใช้ Laser หรือการร้อยไหม และการใช้เครื่อง CPAP

4. VitalSleep Clinic อยู่ที่ไหน?

คลินิกของเราชั้น 33 อาคารพญาไทพลาซ่า (BTS พญาไท) อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถพร้อมบริการ

5. อาการนอนกรนจำเป็นต้องรักษาไหม?

ใช่ จำเป็น เพราะการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงหากไม่ได้รับการรักษา

สรุป

การตรวจการนอนหลับเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยประเมินปัญหาและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น การนอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง

สำหรับคุณหรือคนใกล้ชิดที่มีอาการนอนกรน ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น ง่วงระหว่างวัน หรือมีพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับ ควรเข้ารับการตรวจการนอนกรนเพื่อค้นหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

VitalSleep Clinic คือศูนย์ตรวจคุณภาพการนอนหลับที่พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และSleep Test ราคาที่เหมาะสม เช่น การตรวจนอนกรนด้วย Belun Ring หรือ Watch PAT เพื่อให้ผลวินิจฉัยแม่นยำ พร้อมมอบการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล

การใส่ใจสุขภาพการนอนหลับตั้งแต่วันนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงจากโรคร้ายในอนาคต อย่ารอให้ปัญหาเล็ก ๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ เข้ามาปรึกษากับ VitalSleep Clinic เพื่อรับคำปรึกษาและตรวจสุขภาพการนอนหลับของคุณได้เลย

ตรวจการนอนหลับระดับการนอนกรน

การตรวจการนอนหลับ ระดับการนอนกรน และการรักษานอนกรน 

เป็นการตรวจนอนกรนเพื่อแยกระหว่าง 

  • กรนธรรมดา : ผู้ป่วยมักไม่เดือดร้อน แต่คนรอบข้างเดือดร้อนจากกรนเสียงดัง หรือผู้ป่วยอาจเดือดร้อน ในการเข้าสังคมร่วมกับผู้อื่น ควรตรวจนอนกรนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 
  • กรนอันตราย : ผู้ป่วย และคนรอบข้างเดือดร้อน แถมกรนเสียงดัง ต้องรีบตรวจนอนกรนโดยทันที ถ้าไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยอาจมีอาการง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน ทำให้เรียน หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ถ้าต้องขับรถ อาจเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนได้ นอกจากนั้นจะมีอัตราเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคความดันโลหิตในปอดสูง โรคหลอดเลือดในสมอง และอาจมีอายุสั้น อยู่ได้ไม่นาน โดยเฉพาะถ้าดัชนีหยุดหายใจและหายใจแผ่วเบา ต่อชั่วโมง  20 

การรักษานอนกรน มี 2 ทางเลือก คือ

1. วิธีไม่ผ่าตัด

ทดลองใช้ เครื่องเป่าลมในทางเดินหายใจส่วนบน (CPAP)

  • หลังตรวจนอนกรนเป็นการแก้ปัญหานอนกรนปกติเวลานอน เพดานอ่อน และลิ้นไก่ที่ยาว และโคนลิ้นที่โต จะตกลงมาบังทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ ลมที่เป่าเข้าไป จะผ่านทางเดินอากาศหายใจให้กว้างออก ทำให้ไม่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ ผู้ป่วยไม่กรนเสียงดัง และไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • ควรทดลองใช้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ (ฟรี) ถ้าใช้แล้วดีขึ้น คิดว่าใช้ได้ แนะนำให้ซื้อใช้ แต่ต้องใช้ทุกคืน คืนใดไม่ใช้ ก็จะมีอาการกรนและหรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอีก ซึ่งปัจจุบันตัวเครื่องมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปที่ไหนๆได้ค่อนข้างสะดวก การใช้เครื่องเป่าลมจะเหมือนการใส่แว่นตาใหม่ๆ คืออาจรู้สึกอึดอัดบ้างในช่วงแรก ต้องใส่ๆ ถอดๆ เมื่อชิน ก็จะใส่ได้เอง โดยสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอลอง
  • เครื่อง Manual จะตั้งระดับความดันไว้กี่เซนติเมตรน้ำ ขึ้นกับผลของการปรับความดันขณะลองใช้เครื่องขณะตรวจการนอนหลับ Sleep Test (CPAP titration)
  • เครื่อง Auto สามารถปรับความดันลมที่เป่าออกมาได้อัตโนมัติ ถ้าทางเดินอากาศหายใจตีบแคบมาก เครื่องจะปรับโดยใช้ความดันสูงเป่า ถ้าทางเดินอากาศหายใจตีบแคบน้อย เครื่องจะปรับโดยใช้ความดันน้อย

ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ลองใช้เครื่องขณะตรวจการนอนหลับ Sleep Test (No CPAP titration)

  • ควรขอลองเครื่อง Humidifier (เครื่องปรับอากาศให้อุ่น และชื้นขึ้น) ร่วมด้วยเสมอ เพราะการที่ลมเป่าจมูกเรื่อยๆ ถ้าเป็นลมที่แห้งและเย็น จะทำให้เยื่อบุจมูกบวม เกิดอาการคัดจมูกได้ง่าย ซึ่งจะทำให้เครื่องเป่าลมที่เป็น Auto ต้องเพิ่มความดันมากขึ้น
  • ในการเอาชนะโพรงจมูกที่ตีบแคบ อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัดมากขึ้นได้ หรือถ้าเป็นเครื่อง Manual ระดับความดันที่ตั้งไว้ อาจจะไม่พอในการเอาชนะโพรงจมูกที่ตีบแคบเพิ่มขึ้นมา ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาได้ผลต่ำกว่าปกติ
  • เมื่อเปรียบเทียบกับขณะที่ยังไม่มีเยื่อบุจมูกที่บวม เครื่อง Humidifier นี้ จะทำให้อากาศอุ่นและชื้นขึ้น คล้ายมีเครื่องอบซาวน่าอยู่ที่จมูก ทำให้ผู้ที่สวมใส่สบายขึ้น- ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเกิน โดยควรลด ให้น้ำหนักอยู่ในระดับที่แพทย์แนะนำ

ในกรณีลองใช้เครื่องเป่าลมแล้วดีขึ้น

  • แต่ไม่อยากใช้
  • ใช้แล้วอึดอัด
  • นอนลำบาก

แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อทำเครื่องมือทันตกรรม (Oral appliance) ปกติเวลานอนหงาย ขากรรไกรล่างและลิ้นจะตกตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ทางเดินอากาศหายใจส่วนบนตีบแคบกรนเสียงดัง การใส่เครื่องมือทันตกรรม จะช่วยยึดขากรรไกรบน และล่างเข้าด้วยกัน และเลื่อนขากรรไกรล่างมาทางด้านหน้า และป้องกันไม่ให้ลิ้นและขากรรไกรตกลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งจะทำให้ทางเดินอากาศหายใจส่วนบนกว้างขึ้น

2. วิธีผ่าตัด
  • ควรพิจารณาวิธีนี้ถ้าผู้ป่วยได้ลอง CPAP และตรวจนอนกรน ได้คุยกับทันตแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเครื่องมือทันตกรรมนอนกรนแล้ว ไม่ต้องการใช้ทั้ง CPAP และเครื่องมือทันตกรรมนอนกรน
  • การผ่าตัดไม่ได้รักษา หรือภาวะหยุดหายใจหายขาด หลังผ่าตัด อาการนอนกรนและหรือตรวจการนอนหลับ Sleep Test ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจยังเหลืออยู่ หรือ มีโอกาสกลับมาใหม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สิ่งสำคัญ คือ
    • ต้องควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี อย่าให้เพิ่ม เนื่องจากการผ่าตัดเป็นการขยายทางเดินอากาศหายใจที่แคบให้กว้างขึ้น ถ้าน้ำหนักเพิ่มหลังผ่าตัด ไขมันจะไปสะสมอยู่รอบผนังช่องคอ ทำให้กลับมาแคบใหม่และกรนเสียงดังได้ ซึ่งจะทำให้อาการนอนกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กลับมาเหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมได้
    • ต้องหมั่นออกกำลังกายเสมอ ให้กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินอากาศหายใจส่วนบนตึงตัวและกระชับ เนื่องจากหลังผ่าตัด เมื่ออายุผู้ป่วยมากขึ้น เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินอากาศหายใจส่วนบนจะหย่อนยานตามอายุ ทำให้ทางเดินอากาศหายใจส่วนบนกลับมาแคบใหม่ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การหย่อนยานดังกล่าวช้าลง
    • ในผู้ป่วยบางราย อาจต้องมาผ่าตัดซ้ำเพื่อแก้ไขทางเดินอากาศอากาศหายใจที่แคบส่วนอื่นๆ หรือใช้เครื่อง CPAP หรือเครื่องมือทันตกรรม ร่วมด้วยหลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด และจุดอุดกั้นทางเดินอากาศหายใจ และความรุนแรงของโรค

นอกจากนี้ในวันที่ตรวจการนอนหลับ ผู้รับการตรวจควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้

  • การดื่ม กาแฟ ชา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์เป็นส่วนผสม
  • การออกกำลังกายอย่างหนักหลังเที่ยง
  • ไม่ควรใส่น้ำมัน หรือครีมแต่งผม
  • ควรจะนอนในท่าที่สบายและเคยชินที่สุด
  • กรณีที่ใช้ยารักษาโรคประจำตัวเป็นมานาน เช่น ยาลดความดันโลหิต ยารักษาเบาหวาน หรือ ยา นอนหลับ อาจไม่จำเป็นต้องหยุดยาก่อนตรวจ
  • อย่างไรก็ดีควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่และแพทย์ทราบด้วย หลังจากตรวจเสร็จ ในช่วงเช้า ผู้รับการตรวจ สามารถตื่นนอนตามเวลาปกติ โดยกรณีที่ตรวจ ในระดับ 2 อาจนัดแนะเวลากับเจ้าหน้าที่ให้มาถึง สถานที่รับการตรวจตามสะดวก โดยเจ้าหน้าที่จะทำการแกะอุปกรณ์ต่างๆออก และนำกลับไป วิเคราะห์ผลและตรวจสอบโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับต่อไป

ข้อดีของการตรวจการนอนหลับ ระดับการนอน และการรักษานอนกรนที่ VitalSleep

  • สามารถตรวจการนอนหลับ Sleep Test ได้ที่บ้านเลย เพื่อให้ผลออกมาไม่คลาดเคลื่อนที่สุด
  • เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแปรผลตรวจที่วัดได้

ตรวจนอนกรน รักษานอนกรน ครบ จบที่ VitalSleep

การตรวจการนอนหลับ ระดับการนอน และการรักษานอนกรน เหมาะกับใคร  

เหมาะกับผู้ที่ต้องการทราบว่าตัวเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมกับการนอนกรน อันตรายมากน้อยแค่ไหน และผู้ที่มีอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง ที่ต้องการจะตรวจและรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

คลินิกของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการศึกษาและรับรองจากสถาบันนานาชาติ เรามีใบรับรองแพทย์เฉพาะทาง เกี่ยวกับกล้ามเนื้อทางใบหน้าที่ผิดปกติ เช่นช่องปากและลิ้น เป็นต้น

เทคโนโลยีที่ทันสมัย

VitalSleep Clinic มีเทคโนโลยีในการรักษามากมาย ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีการบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ Myofunction Theraphy และจำหน่ายอุปกรณ์ลดการกัดฟันและข้อต่อขากรรไกรอักเสบ เช่น Myosa®

เสียงตอบรับ

ใครๆก็ไว้ใจให้ VitalSleep Clinic ดูแลรักษาอาการนอนกรน,ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ,นอนกัดฟัน,ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่

VitalSleep Clinic ตั้งอยู่ที่ตึกพญาไทพลาซ่า ชั้น 33 ใกล้ BTS เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวกในการเดินทาง

เรามีคลินิกที่มีเจ้าหน้าที่พร้อมบริการและต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร เราใส่ใจในการบริการและจริงใจต่อทุกคน

Scroll to Top