หัวข้อย่อย
นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอน พบได้บ่อยและอาจมีสาเหตุหลายประการไม่เพียงแค่ นอนไม่พอ แต่อาการปวดหัวเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงและระยะเวลา อาการนอนไม่พอ อาจทำให้เคมีในสมองเปลี่ยนแปลงและเพิ่มการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดหัวได้ เมื่อคุณนอนหลับไม่เพียงพอ และอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันของคุณ
สาเหตุของอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
นอนไม่พอปวดหัว คือการตื่นขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ไม่พึงประสงค์และรบกวนวันของคุณ มีสาเหตุหลายประการของอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นเมื่อตื่นนอนเพราะ นอนไม่พอ ได้แก่
- อาการหยุดหายใจขณะหลับหรือการนอนกรน อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวในตอนเช้า เนื่องจากสภาวะเหล่านี้อาจทำให้ระดับออกซิเจนลดลงในตอนกลางคืน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
- การขาดน้ำอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ ดังนั้นหากคุณควรดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน
- สภาพแวดล้อมการนอนที่ไม่ดี เช่น ใช้หมอนที่ไม่สบายตัว หรือการนอนในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง อาจทำให้ปวดหัวเมื่อตื่นนอน
- ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวเป็นผลข้างเคียง และการรับประทานยาก่อนนอนอาจทำให้ปวดศีรษะในตอนเช้า
- การใช้แอลกอฮอล์หรือยาเสพติด การดื่มหนักหรือใช้ยาอาจทำให้ปวดหัวในตอนเช้า
- ไมเกรนอาการปวดหัวที่มักเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีประวัติไมเกรน
นอนไม่พอคือสาเหตุของอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
การนอนไม่พอเนื่องจากอดนอนสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะโดยการที่ นอนไม่พอปวดหัว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนและสารสื่อประสาทบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเจ็บปวด การอดนอนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดในสมองตีบตันและนำไปสู่อาการปวดหัวได้
นอกจากนี้ อาการนอนไม่พอ ยังทำให้กล้ามเนื้อตึง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดได้ อาการปวดหัวเหล่านี้มักมีลักษณะเฉพาะคือปวดตื้อๆ ทั้งสองข้างของศีรษะ และอาจรุนแรงขึ้นจากความเครียด
นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ จึงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องจัดลำดับความสำคัญของการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละคืน เพื่อป้องกันอาการปวดหัวและผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆ จากการ นอนไม่พอ หากคุณมีอาการปวดหัวบ่อยๆ หรืออาการอื่นๆ การพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือ หมอเฉพาะทาง ซึ่งแนะนำเป็นการตรวจ sleep test เพื่อหาสาเหตุจากการนอนหลับ โดยการตรวจ sleep test ราคา จะขึ้นอยู่กับสถานที่ในการเข้ารับบริการ แล้วควรจะตรวจ sleep test ที่ไหนดี นั้นเดี๋ยวเรามาหาคำตอบกัน
นอนไม่พอส่งผลกระทบแค่ไหน
การที่เรา นอนไม่พอ หรือการอดนอนอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ ผลกระทบบางประการของการนอนไม่พอ ได้แก่
- การทำงานด้านความรู้ความเข้าใจบกพร่อง ส่งผลต่อความสามารถในการมีสมาธิ การตัดสินใจ และประมวลผลข้อมูล สิ่งนี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคุณในที่ทำงานหรือโรงเรียน
- สภาวะทางอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้มีหงุดหงิด วิตกกังวล และซึมเศร้าได้ สิ่งนี้อาจทำให้ยากต่อการรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่น
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เวลาในการตอบสนอง การตัดสินใจ และทักษะการตัดสินใจของคุณลดลง ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
- การนอนหลับมีบทบาทสำคัญในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การอดนอนสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเจ็บป่วย
- การอดนอนอาจส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ซึ่งนำไปสู่ความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงสูงต่อโรคอ้วน
- อัตราเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรัง เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของสภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจและหลอดเลือด
อ่านเพิ่มเติม
| นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ! สรุปรวม 8 เคล็ดลับจาก Harvard เพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอแล้วต้องนอนแค่ไหนถึงจะเพียงพอ
นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนสงสัยเพราะจำนวนการนอนหลับที่ถือว่า “ไม่เพียงพอ” อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และปัจจัยอื่นๆ เช่น ระดับกิจกรรมทางกายและสุขภาพโดยรวม อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อให้แน่ใจว่าได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
บุคคลที่อายุน้อย เช่น วัยรุ่น อาจต้องการการนอนหลับมากขึ้น โดยระยะเวลาที่แนะนำคือระหว่าง 8-10 ชั่วโมงต่อคืน ทารกและเด็กเล็กอาจต้องการการนอนหลับมากขึ้น โดยเด็กแรกเกิดต้องการการนอนหลับมากถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคุณภาพการนอนหลับมีความสำคัญพอๆ กับปริมาณการนอนหลับ แม้ว่าคุณจะนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน หากการนอนของคุณถูกขัดจังหวะบ่อยๆ หรือคุณภาพการนอนของคุณไม่ดี คุณอาจยังคงรู้สึกถึงผลกระทบจากการ นอนไม่พอ
หากคุณนอนหลับไม่เพียงพออย่างต่อเนื่องหรือมีอาการของการอดนอน เช่น เหนื่อยล้า มีสมาธิลำบาก หรืออารมณ์แปรปรวน สิ่งสำคัญคือต้องจัดลำดับความสำคัญของการนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการนอน พฤติกรรมการนอน หรือการไปพบ หมอเฉพาะทาง หากมีปัญหาด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อการนอนหลับของคุณ
อ่านเพิ่มเติม
ตรวจสุขภาพการนอนหลับ (Sleep test)
ทำ Sleep Test (Sleep apnea test) ตรวจการนอนหลับ ทดสอบการนอนหลับ การนอนกรน วินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของโรคภาวะหยุดหายใจชนิดอุดกั้น
วิธีป้องกันอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
การป้องกันอาการปวดหัวเนื่องจาก นอนไม่พอ มีวิธีการคร่าวๆมาแนะนำ ดังนี้
- พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์
- ตรวจดูให้แน่ใจว่าห้องนอนของคุณเงียบ มืด และเย็นสบาย
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีน นิโคติน และแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงหน้าจอก่อนนอน แสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจรบกวนการนอนหลับของคุณได้
- ฝึกเทคนิคการจัดการความเครียด เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจลึกๆหรือฟังเพลง
อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดหัวยังคงอยู่หรือรุนแรงมากขึ้น ควรต้องพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาว่าอาจจำเป็นต้องใช้ยาตามใบสั่งแพทย์หรือการรักษาอื่นๆหรือไม่
การรักษาอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นหลังตื่นนอนอาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงการขาดน้ำ คุณภาพการนอนที่ไม่ดี การนอนหลับผิดปกติ การถูกรบกวนระหว่างนอนหลับทำให้ นอนไม่พอ หรือความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การรักษาอาการปวดหัวเหล่านี้อาจขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการปวดหัว
ซึ่งตัวเลือกการรักษาที่เป็นไปได้สำหรับอาการปวดหัวหลังตื่นนอน มีดังต่อไปนี้
- ยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ เช่น อะเซตามิโนเฟนหรือไอบูโพรเฟน อาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยา และไม่ใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ปวดศีรษะได้
- ภาวะขาดน้ำอาจเป็นสาเหตุทั่วไปของอาการปวดหัวเมื่อตื่นนอน ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ ตลอดทั้งวันอาจช่วยป้องกันอาการปวดหัวเหล่านี้ได้
- หากอาการปวดหัวเกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนที่ไม่ดี การเปลี่ยนแปลงสุขอนามัยการนอนอาจช่วยได้ ซึ่งอาจรวมถึงการรักษาตารางเวลาการนอนหลับปกติ สร้างสภาพแวดล้อมการนอนหลับที่สบาย และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัทพ์ก่อนนอน
- อาการที่เกิดจากการนอนหลับผิดปกติ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับทำให้เกิดอาการปวดหัวเมื่อตื่นนอน อาจจำเป็นต้องรักษาความผิดปกติของการนอนหลับ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) ในการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
- เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือการเล่นโยคะอาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้
- การเข้าตรวจ sleep test เพื่อทดสอบการนอนหลับของคุณว่ามีความผิดปกติมากน้อยแค่ไหน
แต่หากมีความสงสัยหรือลังเลว่าควรเข้าตรวจ sleep test ที่ไหนดี หรือ sleep test ราคา เท่าไหร่นั้น เราขอแนะนำ Vital Sleep Clinic คลินิกรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ โดยเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พร้อมให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม
ตรวจการนอนหลับ Sleep Test ราคาประหยัด ตรวจได้แม้งบน้อย
ตรวจการนอนหลับ ราคาไม่แพง ทดสอบได้ที่บ้าน สามารถประเมินอาการนอนหลับที่ผิดปกติ และแนวทางรักษาโรคนอนกรนเฉพาะบุคคล