
เครื่องช่วยหายใจ CPAP ที่รักษานอนกรน
และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การรักษานอนกรนด้วยการใช้เครื่องเป่าลมในทางเดินหายใจส่วนบน (CPAP)
สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้นอนกรน อุปกรณ์ชนิดนี้อาจเป็นทางเลือกแรกๆ ที่หลายท่านให้ความสนใจ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาทำความรู้จักเครื่องช่วยหายใจชนิดนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
หัวข้อ
- CPAP คืออะไร
- หลักการทำงาน เป็นอย่างไร
- ส่วนประกอบและรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
- ควรเลือกรักษาด้วยเครื่องนอนกรนแบบใด
- มีวิธีใช้งานอย่างไร
- หลังทดลองใช้เครื่อง แล้วใช้ไม่ได้ มีทางแก้ไขอย่างไร
- ข้อดีและผลข้างเคียงของการรักษา
- อุปกรณ์นี้เหมาะกับใคร
- ขั้นตอนการรักษา
- ข้อควรรู้อื่นๆ
- ปัญหาที่พบบ่อย
- ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการใช้

CPAP คืออะไร
อุปกรณ์แก้นอนกรนชนิดหนึ่ง (ย่อมาจาก Continuous Positive Airway Pressure) ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดวิธีหนึ่งในการรักษานอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive sleep apnea syndrome, OSAS) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีอาการในระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง หรือหากอยากรักษานอนกรนแบบไม่ผ่าตัดด้วยวิธีอื่น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ อัปเดตล่าสุด 3 วิธี รักษานอนกรนไม่ต้องผ่าตัด
หลักการทำงาน
อุปกรณ์แก้นอนกรนชนิดนี้มีหลักการในการรักษา คือ การเป่าความดันลมผ่านทางจมูกหรือปาก ผ่านบริเวณลำคอและโคนลิ้น เพื่อให้เปิดขยายตัวตลอดเวลาโดยไม่ให้มีการอุดตันขณะที่นอนหลับ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถหายใจรับอากาศอย่างพอเพียงและนอนหลับราบรื่นตลอดทั้งคืน
เครื่องช่วยนอนกรนมีส่วนประกอบและรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ปัจจุบันมีเครื่อง CPAP อยู่หลายแบบเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามส่วนประกอบของเครื่องซีแพพ หลักๆ นั้นจะคล้ายกัน ได้แก่
- ส่วนของเครื่องช่วยนอนกรนที่สร้างความดันลม
- ส่วนของหน้ากากและสายรัดศีรษะ
- ส่วนของท่อลม
- อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ของเครื่องช่วยหายใจ cpap เช่น เครื่องทำความชื้นหรือหน้ากากสำรอง เป็นต้น


เครื่อง CPAP ของ ResMed รุ่น AirSense 10 AutoSet
- ระบบ Auto Set ปรับความดันอัตโนมัติ ทำให้การนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
- ระบบลดแรงต้านในช่วงแรกของการนอน ช่วยลดความอึดอัดขณะสวมใส่อุปกรณ์ เพื่อให้ใส่อุปกรณ์ต่อไปได้
- ระบบการแจ้งเตือนการทำความสะอาดอุปกรณ์อัตโนมัติ ได้แก่ หน้ากาก ท่ออากาศ แผ่นกรองอากาศ และกระบอกใส่น้ำสำหรับสร้างความชื้น
- มีเครื่องทำความชื้นในตัว เพียงแค่เติมน้ำในปริมาณที่กำหนด แล้วเสียบเข้ากับตัวเครื่อง CPAP
- รองรับการใช้งานร่วมกับท่อควบคุมอุณหภูมิที่สามารถป้องกันการเกิดหยดน้ำในท่อ
- การบันทึกข้อมูลด้วย SD Card
- การอ่านผลสามารถทำได้ผ่าน SD Card และผ่านออนไลน์

เครื่อง CPAP รุ่น ResMed AirSense 10 AutoSet For Her
- ระบบการทำงานจะเหมือนกับ ResMed AirSense 10 AutoSet
- แต่จะมีฟังก์ชันที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิง คือ การสร้างความดันลมบวกที่มีความอ่อนนุ่ม ทำให้รู้สึกสบายกว่า เพราะผู้หญิงมีภาวะการหยุดหายใจที่ซับซ้อนว่าผู้ชาย จึงเหมาะสำหรับผู้หญิงและผู้ที่ต้องการความดันลมบวกที่มีความอ่อนโยน
ควรเลือกรักษาด้วยเครื่องนอนกรน CPAP แบบใด
ก่อนการรักษาด้วยอุปกรณ์แก้นอนกรน ท่านต้องได้รับการตรวจการนอนหลับ (Sleep test) โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนี้ก่อนเสมอ แพทย์ จะเป็นผู้กำหนดระดับความดันลมที่เหมาะสมกับคนไข้ในการเริ่มต้นใช้งาน
เนื่องจากในปัจจุบัน มีเครื่องซีแพพ อยู่หลายแบบ ซึ่งแบ่งง่าย ๆ จะเป็น
1. แบบธรรมดา
2. เครื่องแก้นอนกรน 2. ระดับ (Bilevel PAP หรือ BIPAP)
3. แบบปรับความดันอัตโนมัติ (Auto-adjusting PAP หรือ APAP)
ท่านจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะอุปกรณ์แก้นอนกรนว่าใช้แบบใด และความดัน ลมเท่าใดจึงจะเหมาะสมกับอาการนอนกรน
คนไข้ควรตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ในเบื้องต้นเพื่อสำรวจว่า ตนเองเหมาะกับการรักษาแบบใด หากแพทย์วินิจฉัยว่าเหมาะกับการรักษาด้วยอุปกรณ์ชนิดนี้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าควรใช้รุ่นใด
Oral Appliance หรือ CPAP ดี?
สำหรับคนที่อยากรักษาโรคนอนกรน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าตนเองควรใช้อุปกรณ์ชนิดไหนดี วันนี้แอดมินมีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากค่ะ
วิธีการใช้
จะเริ่มใช้เฉพาะเวลาที่ท่านกำลังจะนอนหลับ
วิธีการใช้เครื่องเป่าความดันลมนี้ไม่ยุ่งยากและไม่ซับซ้อน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- ตั้งเครื่อง CPAP ไว้ข้างที่นอน
- เสียบปลั๊กไฟเข้ากับตัวเครื่อง
- ต่อท่ออากาศเข้ากับตัวเครื่อง และหน้ากาก
- สวมหน้ากาก เพื่อให้ลมเป่าผ่านทางท่อเข้าสู่ทางเดินหายใจอย่างถูกต้อง
- เปิดใช้งานเครื่องแล้วเข้านอนตามปกติ
ถ้าทดลองใช้แล้ว ใช้เครื่องไม่ได้ มีทางแก้ไขอย่างไร
หากท่านมีปัญหาเรื่องหน้ากากเครื่องช่วยหายใจสำหรับคนนอนกรน ท่านอาจเปลี่ยนได้หลายแบบ
โดยท่านควรจะพยายามใช้ให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนที่จะตัดสินใจแล้วว่าท่านไม่ สามารถใช้เครื่องช่วยหายใจแก้นอนกรนได้จริง ๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านควรปรึกษากับแพทย์ถึงทางเลือกการ รักษาอื่น ๆ
ประโยชน์หรือข้อดี ของการรักษาด้วยเครื่องเป่าความดันลมซีแพพ
การรักษาด้วยเครื่องซีแพพ นั้นตามรายงานการวิจัยทั่วโลก จัดว่าเป็นการรักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับระดับปานกลางหรือระดับรุนแรง ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาดีที่สุดในแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด ถ้าท่านได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องท่านจะได้ใช้ตลอดทั้งคืน เครื่องซีแพพ ราคาแล้วแต่รุ่นของตัวเครื่องและยี่ห้อที่ผลิตในประเทศต่างๆเช่น จีน หรือ USA
iNAP นวัตกรรมใหม่แห่งการรักษานอนกรน
อุปกรณ์แก้กรน iNAP® ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การนอนหลับที่สบายให้กับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ซึ่งแตกต่างจากเครื่อง CPAP ทั่วไป
ข้อดีมีทั้งในระยะสั้น คือ
- ท่านจะไม่มีอาการนอนกรนและจะนอนหลับได้ดีขึ้นพร้อมกับได้รับอากาศอย่างเต็มที่
- ตื่นขึ้นมาจะสดชื่น
- ลดอาการอ่อนเพลีย
- ความง่วงนอนตอนกลางวันอย่างที่ท่านรู้สึกความแตกต่างได้
ข้อดีในระยะยาว คือ
- จะลดความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อนหรืออาการอื่นๆที่เกิดจากการหยุดหายใจขณะหลับด้วย โดยหากท่านติดตามดูแลกับแพทย์อย่างใกล้ชิดร่วมกับการใช้เครื่องช่วยหายใจ จะมีความเสี่ยงในการรักษาน้อยลง
ข้อเสีย หรือ ผลข้างเคียงจากการใช้
ผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่พบบ่อย ๆ จากการใช้มักเกิดจากเครื่องเป่าอากาศที่ใช้ เช่น
- อาจไม่พอดีกับโครงหน้าของท่าน ทำให้แน่นไปจนเป็นรอยกดทับ
- อาจเกิดแผลถลอก หรืออาจหลวมไปจนเกิดความรำคาญ
- นอกจากนี้การที่ต้องใช้ลมเป่าผ่านจมูกของท่านทุกคืนเป็นเวลานาน ๆ บางรายอาจมีปัญหาเรื่องโรค จมูกหรือไซนัสกำเริบขึ้น
- ท่านอาจจะรู้สึกไม่ประทับใจในภายแรกที่ได้เห็นหน้ากากว่าไม่ค่อยน่าใช้
- บางรายทดลองใช้แล้วเกิดความอึดอัด รำคาญทำให้นอนหลับไม่สนิท
- รวมถึงความไม่สะดวกต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีท่านต้องเดินทางไกลหรือเปลี่ยนสถานที่ นอนหลับบ่อยครั้ง จะพกพาลำบาก เนื่องจากมีขนาดใหญ่
- นอกจากนี้หลาย ๆ ท่านอาจต้องใช้เครื่อง CPAP ไปตลอดชีวิต ยกเว้นบางรายที่สามารถแก้ที่ต้นเหตุของโรคนอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้จึงอาจหยุดใช้เครื่องช่วยนอนกรนได้ในภายหลัง
การรักษาอาการนอนกรนด้วยการใช้เครื่องซีแพพ หรือ เครื่องช่วยนอนกรน เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่มีอาการนอนกรนเสียงดังและมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วยระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเครื่องช่วยหายใจ cpap อาจจะไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเครื่องเป่าความดันลมซีแพพ ,ปัจจัยอื่นร่วมอยู่ด้วย เช่น ความดันอากาศ โรคกลัวที่แคบ หรือแม้แต่ความรู้สึกในการสวมใส่ซีแพพ ในแต่ละบุคคล
อัปเดตล่าสุด 3 วิธี รักษานอนกรนไม่ต้องผ่าตัด
อัปเดตการรักษานอนกรนแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ได้รับความนิยมจากทั้งในโรงพยาบาลและตามคลินิกต่างๆ พลาดไม่ได้แล้วล่ะ !

ขั้นตอนการรักษา
พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาปัญหาการนอนกรน ที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ป่วย
ตรวจสุขภาพการนอนหลับ Sleep Test
เพื่อประเมินอาการว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
การตรวจสุขภาพการนอนหลับ สามารถตรวจได้ที่บ้านเลย เพื่อที่ผลการตรวจจะได้ตรงตามอาการมากที่สุด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ นำเครื่องตรวจไปให้ที่บ้าน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแปรผลและอ่านผลตรวจสุขภาพการนอนหลับ
หลังจากตรวจสุขภาพการนอนหลับเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำเครื่องตรวจกลับมาที่คลินิก และให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนอ่านผลการตรวจ
รับอุปกรณ์รักษานอนกรนเพื่อรักษา
เมื่อแพทย์แปรผลอ่านผลเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะให้เครื่องเป่าความดันลมที่เหมาะสมกับตัวเรา และสอนวิธีการใช้โดยเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัด เพื่อนำกลับไปใช้รักษา
ติดตามการรักษา
การใช้เครื่องมีประโยชน์อย่างมากต่อท่าน หากท่านได้ใช้อย่างตลอดและต่อเนื่อง ซึ่งท่านจะต้องหมั่นทำความสะอาดเครื่องลดอาการนอนกรนอย่าง สม่ำเสมอเพื่อลดอัตราการติดเชื้อโรค รวมถึงต้องติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ท่านมีคุณภาพชีวิตทั้งด้านการนอนและสุขภาพอื่นๆ ดีขึ้นทั้งในระยะสั้น และระยะยาวต่อไปในอนาคต
ระยะเวลาในการรักษา
การใช้เครื่อง ไม่ได้รักษานอนกรนหยุดหายใจได้ถาวร แต่เพียงแค่ช่วยให้หายใจตอนกลางคืนได้สะดวกเท่านั้น หากผู้ป่วยต้องการหายเป็นปกติ ต้องทำการรักษาด้วยวิธีอื่นที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนรักษาให้

ข้อควรรู้อื่น ๆ
ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในเครื่องเป่าลมแบบธรรมดา อาจมีราคาประมาณ 3-4 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นแบบอัตโนมัติ (AutoPAP) หรือความดัน 2 ระดับ (BIPAP) ราคาจะสูงขึ้นเป็น 2 – 3 เท่าตัว ทั้งนี้หากท่านได้รับการตรวจสุขภาพการนอนหลับ (Sleep test) และได้รับการตั้งค่าความดันลมแบบมาตรฐาน ภายในห้องตรวจการนอนหลับเฉพาะที่ได้รับการควบคุมและแปลผลอย่างถูกต้องเชื่อถือได้ ท่านอาจจะใช้เพียงเครื่องซีแพพแบบธรรมดาซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายของท่านได้มาก และปัจจุบันในถ้าท่านใช้สิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลแบบข้าราชการ
จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้บางส่วน คือราว 2 หมื่นบาท ซึ่งจะช่วยท่านลดค่าใช้จ่ายลดไปได้มาก
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้เครื่อง CPAP
รักษาอาการนอนกรน รวมถึงวิธีแก้ไข การใช้เครื่องมือที่เป่าลมเข้าไปใน ทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้กว้างขึ้นที่เรียกว่า Continuous positive airway pressure นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน (Snoring) หรือภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive sleep apnea: OSA) ตั้งแต่ระดับน้อย ถึงระดับรุนแรง ซึ่งปฏิเสธการ รักษาด้วยเครื่องมือทัตนกรรมแก้นอนกรน (Oral appliance) หรือ การผ่าตัด เครื่องช่วยการหายใจนี้เป็นการนำหน้ากากครอบจมูกขณะนอนหลับ
ซึ่งหน้ากากนี้จะต่อเข้ากับเครื่องช่วยแก้นอนกรนที่สามารถขับลม ซึ่งมีแรงดันเป็นบวกออกมา ลมที่ขับออกมาขณะนอนหลับจะช่วยค้ำยัน ไม่ให้เกิดการอุดกั้น ขณะหายใจเข้า วิธีนี้เป็นวิธีแก้อาการนอนกรน ระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง (Moderate to severe OSA) ที่ดีที่สุด ซึ่งควรพิจารณาลองใช้ในผู้ป่วยทุกราย ก่อนพิจารณาการผ่าตัดเสมอ
7 วิธีแก้นอนกรน รักษานอนกรนโดยไม่ผ่าตัด
การรักษานอนกรนโดยไม่ผ่าตัด แก้ปัญหานอนกรน โรคนอนกรน ตามความเหมาะสมของแต่ละเคสภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง
ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการใช้
1. ทนระดับความดัน เครื่อง Cpap ไม่ได้
วิธีแก้ไข
– ตรวจสอบเครื่องมือ
– ใช้รูปแบบค่อยๆปรับเพิ่มระดับความดัน
– ลองใส่ ขณะยังตื่น
– ปรับลดความดัน 1-2 ซม.น้ำ (ซึ้งไม่คอยแนะนำให้ทำ)
– เปลี่ยนเป็นเครื่อง CPAP ที่ปรับความดันอัตโนมัติบวกแบบสองระดับ (BIPAP : Bilevel positive airway pressure)
2. ลมรั่วจากหน้ากาก
วิธีแก้ไข
– รัดหน้ากากให้แน่น
– ใช้แผ่นเสริมรองหน้ากาก
– ลดขนาดหน้ากากให้พอเหมาะสม
3. ไม่ผ่อนคลายขณะหลับ
วิธีแก้ไข
– ใช้รุ่นที่มีเครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้น Humidifier) ร่วมด้วย
– ใช้สายรัดคางร่วมด้วย
– ตั้งสัญญาณเตือน เมื่อมีการลดลงของระดับความดัน
4. กลัวที่แคบ
วิธีแก้ไข
– เปลี่ยนชนิดหน้ากาก เป็นชนิดสายใส่จมูก
– ลองใส่เครื่องช่วยแก้นอนกรนขณะยังตื่น
– ญาติควรให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย
5. นอนไม่หลับจากการใช้เครื่อง
วิธีแก้ไข
– ลองใส่เครื่องช่วยหายใจนอนกรนขณะยังตื่น
– หลีกเลี่ยงกาแฟ และแอลกอฮอล์ในช่วง 8 ชั่วโมงก่อน
6. ปากแห้ง
วิธีแก้ไข
– ใช้รุ่นที่มีเครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้น (Humidifier) ร่วมด้วย
– เปลี่ยนหน้ากากเป็นชนิดครอบปากร่วมด้วย
– ใช้สายรัดคางร่วมด้วย
– รับประทานน้ำ 1 แก้วก่อนนอน
– ควรพยายามหลีกเลี่ยงอากาศเย็นโดยเฉพาะแอร์ พัดลมเป่า ถ้าต้องการเปิดแอร์ ควรตั้งอุณหภูมิของ เครื่องปรับอากาศ ให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียสเพื่อไมให้อากาศเย็นจนเกินไป
– ในกรณีที่ใช้พัดลมไม่ควรเปิดเปิดเบอร์แรงสุดและควรให้พัดลมส่ายไปมาควรหลีกเลี้ยงการสัมผัสอากาศจากการปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง
– ควรนอนห่างจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมพอสมควรหรือไม่ให้อยู่ในทิศทางของลม
7. รอยกดทับจากการใส่หน้ากาก ทำให้รู้สึกไม่สบายหน้า
วิธิแก้ไข
– เลือกหน้ากากที่มีขนาดพอเหมาะ
– เปลี่ยนขนาดหรือชนิดหน้ากาก
– ใช้แผ่นรองหน้ากาก เพื่อลดรอยกดทับ
– งดใช้เครื่องเป็นบางวัน
8. อาการคัดจมูก
วิธิแก้ไข
– ใช้น้ำเกลือพ่นจมูกเพื่อให้ความชุ่มชื้นก่อนเริ่มใช้เครื่องช่วยแก้นอนกรน
– ใช้รุ่นที่มีเครื่องเป่าอากาศให้อุ่นและชื้น(Humidifier) ร่วมด้วย
– ใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก
– รับประทานยาต้านฮสตามีนชนิดไม่ง่วง
– เปลี่ยนหน้ากากเป็นชนิดครอบปากร่วมด้วย
– ในรายที่อาการคัดจมูกไม่ดีขึ้น ควรปรึกษา แพทย์ หู คอ จมูก
ทำไมต้องรักษาโรคนอนกรนที่ VitalSleep Clinic
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คลินิกของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการศึกษาและรับรองจากสถาบันนานาชาติ เรามีใบรับรองแพทย์เฉพาะทาง เกี่ยวกับกล้ามเนื้อทางใบหน้าที่ผิดปกติ เช่นช่องปากและลิ้น เป็นต้น
เทคโนโลยีที่ทันสมัย
VitalSleep Clinic มีเทคโนโลยีในการรักษามากมาย ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีการบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและระบบทางเดินหายใจ Myofunction Theraphy และจำหน่ายอุปกรณ์แก้กรนหรืออุปกรณ์อีกหลากหลาย เช่น เครื่องเป่าความดันลม Cpap , หมอนลดกรน , Snore circle ชิป อีกด้วย
ความหลากหลายของการรักษา

เสียงตอบรับ
ใครๆก็ไว้ใจให้ VitalSleep Clinic ดูแลรักษาอาการนอนกรน,ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ,นอนกัดฟัน,ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ